Notes:
- Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมู Rabbit Doubt
- อยากแปะเก็บไว้ที่นี่ ถ้ามีตอนต่อก็คงมาเก็บไว้ที่นี่เหมือนกัน
- มีสะกดผิดหรือติดขัดทักได้นะคะ orz
- มีสะกดผิดหรือติดขัดทักได้นะคะ orz
Other related works:
- Backstories: http://justpaste.it/RDU_Wilfred_01 / http://justpaste.it/RDU_Wilfred_02
- In-game: http://justpaste.it/RDU_Wilfred_Deathbed
Rewind
(1)
ถ้าหากว่าไม่มีแรงกระตุ้น ฉันคงจะวางตัวคล้าย
ๆ—หมายเลข 14 กับ 17
พวกหมาป่าเลือกจำกัดคุณศิลปะในคืนแรก
(เอเดน) และคุณอิสรภาพ (อัสลี) กับคุณความกล้า (ลีอาร์) ในคืนที่สอง
มันก็เพียงพอที่จะเป็นแรงกระตุ้น
เพราะว่าเริ่มน่าเบื่อเสียแล้วสิ
_
ถ้า... ไม่รอด
ต้นคริสต์มาสของสมอลพีซคงจะเสร็จ
ฉันอาจจะได้ถามอัสลีว่าจริง ๆ แล้วการเป็นแบ็คแพ็คเกอร์นั้นเป็นยังไง ฉันอาจจะเพจเจอร์บอก
GM
ว่า ‘ขอบคุณ…
สำหรับประสบการณ์’ ฉันคงอวยพรให้เรียวกลับบ้านดี ๆ ฉันคงถามจอห์นสันว่า ‘เราเป็นเพื่อนกัน
รึเปล่านะ’
ฉันคงบอกเคลว่า ‘ฉันอยากจะอยู่ต่อ’ ฉันคงพูดกับวาเลนว่า ‘กลับไอร์แลนด์ด้วยกันเถอะ’
และหากพบกันอีก _____
ฉัน _____
นะ
ช่องว่างบางจุดก็เติมไม่ได้
_
ว่าด้วย...
เรื่องเดิม ๆ
บางทีฉันอาจจะไม่ได้ขาดทั้งความมุ่งมั่นและแรงกระตุ้น
สถิติคือหนึ่งในสี่ของ Anorexics ตายก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือได้ทันเวลา
อาจพูดได้ว่าจากแง่มุมของ ‘คนป่วยทางจิต’—อย่างที่เขาเรียกกัน—ฉันล้มเหลว ฉันกินอาหารเพื่อให้คนในครอบครัวพอใจ
อาหารไม่ต่างอะไรกับการทานยา ฉันสูญเสียความรื่นรมย์ในการทานอาหารไปแล้ว และใช้ชีวิตเหมือนกำลังเล่น
Russian roulette
หลังจากที่เคยถูกส่งเข้าโรงพยาบาลมาครั้งหนึ่ง ฉันก็กลับบ้านทันทีที่แพทย์อนุญาต—ก่อนจะเกิดเหตุเสียน้ำตาหน้าเครื่องชั่งน้ำหนัก
(11 กิโลฯ เชื่อรึเปล่า) แล้วเริ่มดำเนินการเสียน้ำหนักทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาในทันที
ไม่นานเสียไปเพิ่มยิ่งกว่านั้น (15 กิโลฯ) แต่พยายามคำนวณไม่ให้ต้องกลับไปอยู่ใต้หลังคาโรงพยาบาลอีก
ฉันต้องระวังไม่ให้ตัวเองดื่มกาแฟมากเกินไปในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยได้กินอาหาร (เอสเพรซโซ่
1 oz มี 1 แคลอรี) เนื่องจากร่างกายอ่อนแรง
และมีความเสี่ยงที่ชีพจรจะเต้นช้าเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่ (ฉันเองก็กลัวตายสินะ)
ฉันยอมรับที่จะเริ่มบำบัดโรคซึมเศร้า แต่ไม่ยอมรับการบำบัด ED ถ้าจำไม่ผิดฉันเหมือนจะพูดกับคนในครอบครัวด้วยซ้ำว่า
ฉันจะไม่ให้ใครแตะ ED ของฉัน ทำราวกับว่ามันกลายเป็นของของฉัน
แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของฉันจริง
ๆ ทุกวันคือสงคราม ฉันจะควบคุม ED
ได้ รึจะปล่อยให้มันควบคุมฉัน
_
กดปุ่มกรอเทปกลับ
“ท่าทางจะชอบงานศิลปะงั้นสินะครับ”
วาเลนมีรอยยิ้ม “อืม เอาศพไปตรึงไว้กับผนังแบบคราวนี้จะเรียกว่าตกแต่งได้หรือเปล่านะ
นี่ ผมฝากคุณฆ่าผมหน่อยได้หรือเปล่า”
เหมือนว่าเขาเองก็หมดแรงกระตุ้นล่ะมั้ง
ขี้เกียจ... ในแบบที่ฉันเองก็พอเข้าใจ ทั้งที่ท่ามกลางบุคลิกเฉื่อยชานั่น ความคิดของเขาดูเหมือนจะเคลื่อนไหว
เชื่อมโยง แตกแขนงออกไปอย่างต่อเนื่อง การคุยกับเขาจึงเหมือนกับการเดินทาง
แม้ว่าเราจะไม่ได้เคลื่อนไปไหน แต่ก็เหมือนได้กลับไปไอร์แลนด์ เขาเพียงแต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะขายความคิดของเขาให้ใคร
หรือบางทีอาจไม่คิดว่าจำเป็นที่จะต้องแบ่งปันในรูปแบบที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจ แต่เขาอ่านฉันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง...ทุกส่วน—อย่างน้อยฉันก็คิดอย่างนั้น
แต่ฉันก็ปล่อยให้มันเป็นไป
ฉันนึกภาพว่าฉันทำได้...
ถ้าจะฆ่าเขา ฉันคงใช้มีดสวิส ฉันจะอยู่กับเขาจนกว่าทุกอย่างจะจบลง
ฉันเสนอที่จะฆ่าเขาวันนั้น
– วันที่เขาฝากให้ฉันฆ่า แต่ดูเหมือนเขายังมีอะไรที่กะว่าจะทำ
ฉันจึงตั้งใจว่าจะฆ่าเขา หลังจากผลโหวตวันพรุ่งนี้ออก
วันพรุ่งนี้ของฉันไม่ได้มาถึง
_
ฉันอยากจะ
_____
_
ต่อให้เช็ดต้นคริสต์มาสโมเสคที่เปื้อนเขม่านั่น...
ว่าจะเอาหัวของนาโอะไปวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาส
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ
To be continued?
No comments:
Post a Comment